แรงบันดาลใจของหลุยซัวเรซ (บทความดีๆ)

[MaFia]

เมื่อซัวเรซชอบแล้ว ก็เริ่มเดินหน้าจีบโซเฟีย เขาขอเบอร์โทรศัพท์เธอ และโทรไปคุยด้วย

โซเฟียเองคุยไปคุยมา ก็รู้สึกดีกับซัวเรซเช่นกัน และในที่สุดทั้งคู่ก็นัดออกเดทกันครั้งแรกที่ห้างสรรพสินค้า

โซเฟียเกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง คุณพ่อเป็นพนักงานธนาคาร ส่วนพี่ชายทำงานในประเทศสเปน ซึ่งแน่นอนว่าดูแล้วคนละระดับกับซัวเรซ อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นมากนัก เธอคิดว่าซัวเรซ มีพื้นฐานเป็นคนดี และเธอก็ชอบคุยกับเขาด้วย

ด้วยความเป็นคุณหนู ทำให้ซัวเรซจำเป็นต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู เขาจะสามารถเจอหน้าโซเฟียได้ ก็ต้องไปหาเธอที่บ้านเท่านั้น โดยให้พ่อแม่ของโซเฟียรับรู้ด้วย นานๆครั้งเธอถึงจะออกมาเจอเขาข้างนอกได้สักที

บ้านของโซเฟีย อยู่ในเขตโซลีมาร์ ย่านคนรวย ซึ่งอยู่ห่างจากหอพักของสโมสรนาซิอองนาล ระยะทางไปกลับ 40 กิโลเมตร

ค่ารถจากที่พักซัวเรซไปบ้านของโซเฟีย ต้องจ่ายค่าตั๋ว 20 เปโซต่อเที่ยว (20 บาท) หากไปกลับก็เป็น 40 เปโซ

ซัวเรซเองด้วยความที่ไม่มีเงิน จึงชอบไปท้าโค้ชทีมเยาวชนของตัวเองว่า "ถ้าผมยิงได้ตอนซ้อม ผมขอลูกละ 20 เปโซ จากคุณได้ไหม" ซึ่งสุดท้ายเขาก็มักจะยิงได้ 2 ลูกต่อเกมนั่นล่ะ ทำให้ได้เงิน 40 เปโซ ไปกลับได้ แต่บางวันถ้าได้แค่ 20 เปโซ เขาก็จะโบกรถขากลับเอา

น่าแปลกที่ครอบครัวของโซเฟีย ไม่ได้รังเกียจซัวเรซเลย แต่กลับเอ็นดูเขาด้วยความเต็มใจ พวกเขาเห็นความตั้งใจจริงของซัวเรซ ที่ไปกลับ 40 กิโลทุกวัน เพียงเพื่อได้อยู่คุย 1-2 ชั่วโมงกับโซเฟีย ดังนั้นจึงค่อนข้างเปิดใจและไม่กีดกันความรักครั้งนี้

"ถ้าผมมีลูกสาววัย 13 แล้วมีไอ้เด็กบ้าอายุ 15 ที่ไหนมาจีบ รับรองว่าผมคงไม่ใจดีกับเขาแน่" ซัวเรซยอมรับ

หลังจากไปมาหาสู่กันเรื่อยๆ ในที่สุด ซัวเรซกับโซเฟีย ก็ตัดสินใจคบกันเป็นแฟนในที่สุด

--------------------------------

ซัวเรซ กับโซเฟีย เรียนอยู่ ม.1 เหมือนกัน โซเฟียมาตามเกณฑ์ ส่วนซัวเรซ ซ้ำชั้น 2 ครั้ง

โซเฟียเป็นคนสอนการบ้านให้ซัวเรซ และติวให้เขาก่อนสอบ เธอเองคิดว่าซัวเรซ ต่อให้เล่นบอลเก่งแค่ไหนก็เถอะ แต่การเรียนก็ควรใส่ใจบ้าง

"เธอมักจะพูดว่า 'เธอไม่ได้โง่นะ หลุยส์ แต่เธอแค่ขี้เกียจ! เธอทำได้ เชื่อฉันสิ'" ซัวเรซเล่า "ซึ่งสำหรับเด็กผู้ชายที่แม่ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่ผมได้รับความใส่ใจจากใครสักคน"

ทุกครั้งที่ซัวเรซกลับมาจากโรงเรียน โซเฟียจะถามเสมอว่า "วันนี้ตั้งใจเรียนหรือเปล่า!" ซึ่งมันทำให้หลุยส์ ซัวเรซ มีแรงผลักดันในการเรียน เขาไม่อยากทำให้เธอผิดหวังที่อุตส่าห์ติวให้เขา

ซัวเรซมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในห้องเรียน และในที่สุดเขาก็ไม่ต้องซ้ำชั้นอีก

ขณะที่เรื่องนิสัยเกเร ชอบอยู่กับเพื่อนนิสัยไม่ดี โซเฟียก็คอยเบรกห้ามปราม คอยตักเตือนให้เขาเลือกคบคน

เธอจูนสติของซัวเรซ ให้มุ่งมั่นอยู่ที่การซ้อมฟุตบอล อย่าเถลไถล อย่าไม่รับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง

เรียกได้ว่าแม้จะอายุน้อยกว่า 2 ปี แต่โซเฟียมีความเป็นผู้ใหญ่ยิ่งกว่าเขาเยอะ

ดังนั้นกิจวัตรของซัวเรซทุกวัน ซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ เรียนหนังสือ ซ้อมฟุตบอล จากนั้นก็นั่งรถบัสไปหาโซเฟียที่บ้าน อยู่กับโซเฟียจนค่ำ แล้วก็นั่งรถกลับมาที่พัก

ชีวิตของเขาดูจะลงตัวแล้ว ทุกอย่างเพอร์เฟ็กต์หมด เขาเลิกคบเพื่อนเกเร ตั้งใจเรียนหนังสือ และมุ่งหน้าไปที่เป้าหมายสำคัญที่สุด นั่นคือเป็นนักเตะอาชีพให้ได้

เขาอยากเป็นคนที่คู่ควรกับโซเฟียในสักวัน

เพียงแต่สิ่งที่ซัวเรซ ไม่ได้คาดคิดมาก่อน นั่นคือตอนคบกันได้ 1 ปี ในช่วงที่เขามีความสุขที่สุด

โซเฟีย ต้องย้ายไปอยู่ที่ประเทศสเปน

--------------------------------

"โลกของผมเหมือนจะล่มสลาย" ซัวเรซยอมรับ

ช่วงปลายปี 2002 ที่อุรกวัย เกิดพิษเศรษฐกิจอย่างรุนแรง จนธนาคารต้องเลย์ออฟคนจำนวนมาก ซึ่งพ่อของโซเฟียก็โดนด้วย อย่างไรก็ตาม พี่ชายของโซเฟียที่อยู่ในสเปน มีที่ทางทุกอย่างพร้อม และสามารถหางานให้พ่อได้ ดังนั้น ครอบครัวบัลบี้ จำเป็นต้องอพยพไปตั้งรกรากกันใหม่ที่ทวีปยุโรป

ตุลาคม 2003 คืนสุดท้ายก่อนบินไปสเปน เพื่อนฝูงของตระกูลบัลบี้ ได้มารวมตัวกันเพื่อจัดงานเลี้ยงส่ง ซึ่งนั่นเป็นครั้งสุดท้าย ที่หลุยส์คิดว่า เขาจะได้เจอกับโซเฟียแล้ว

"ผู้คนมากมายมาร่วมอำลาครอบครัวของเธอในวันนั้น แต่เราทั้งคู่ก็เดินแยกออกมาจากทุกๆคน ผมจำได้ว่า เธอเดินมาส่งผมที่ป้ายรถเมล์ คำสุดท้ายที่ผมพูดคือ 'ไม่อยากเชื่อ ว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว' "

ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกจากกัน โซเฟีย ให้หนังสือแบบฝึกหัดที่โรงเรียนเอาไว้ และย้ำให้เขาอย่าทิ้งการเรียน

วันรุ่งขึ้นโซเฟีย บินไปบาร์เซโลน่า และหลุยส์ก็กลับมาอ้างว้างเดียวดายอีกครั้ง

ซัวเรซ ร้องไห้ตั้งแต่วันแรกที่แยกจากกัน เขาหยิบแบบฝึกหัดที่เธอให้ขึ้นมาอ่าน ด้านในหนังสือ มีเนื้อเพลงที่เธอเขียนด้วยลายมือตัวเอง ถึงความรู้สึกที่เธอมีแต่ซัวเรซ เขาอ่านไปก็น้ำตาไหลไป

ในใจเขาคิดถึงโซเฟียจริงๆ

ดังนั้นตอนนี้ ซัวเรซจึงรู้ว่า จะปล่อยให้ชีวิตล่องลอยไม่ได้อีกแล้ว

เพื่อคนเดียวที่เขารัก เขาต้องทำอย่างไรก็ได้ เพื่อพาตัวเองไปเล่นที่สเปน เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะได้โอกาสใกล้ชิดกับเธอที่สุด

--------------------------------

ตั้งแต่ต้องพรากจากกัน ซัวเรซ ผลักดันตัวเองอย่างเต็มที่ เขามุ่งมั่นในการซ้อมราวกับเป็นคนละคน

นั่นทำให้เดือนมกราคม 2004 สโมสรตัดสินใจเรียกซัวเรซ ไปร่วมซ้อมกับผู้เล่นทีมชุดใหญ่ของนาซิอองนาล ในช่วงปรีซีซั่น

ในซีซั่น 2004 ซัวเรซ ค้นพบว่า เลเวลของทีมชุดใหญ่มันแกร่งจริงๆ เขาในวัย 16 ยังไม่เก่งพอจะเล่นได้ จึงโดนดร็อปกลับไปเล่นกับทีมชุดเล็กอีกรอบ

แต่ซัวเรซก็ไม่ยอมแพ้ เขาซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิม เป้าหมายของเขาคือ ได้เป็นนักบอลอาชีพ และย้ายไปเล่นในยุโรปให้ได้

ตลอดปีซัวเรซ ไม่ได้เจอกับโซเฟียเลย ทั้งคู่ได้แต่คุยกันผ่านโทรศัพท์เท่านั้น แต่ซัวเรซก็อธิบายให้รู้ว่าที่เขาไม่ได้ไปสเปนไม่ใช่เพราะไม่คิดถึง

"ถ้าฉันได้ติดทีมชุดใหญ่ของนาซิอองนาล ฉันก็จะมีเงินมากกว่านี้ สามารถไปหาเธอได้ตลอดเลยไง" ซัวเรซบอกกับโซเฟีย คือเขาอยากให้เธอรู้ว่า เขานี่แหละคิดถึงเธอที่สุดในโลกแล้ว

ในปี 2004 ซัวเรซ ยิงประตูกระจุยในระดับเยาวชน นั่นทำให้ต้นปี 2005 ก่อนซีซั่นใหม่จะเริ่มขึ้น เขาได้โอกาสให้ไปซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่อีกครั้ง

คราวนี้ซัวเรซไม่พลาดแล้ว ในวัย 17 เขาได้เล่นในรายการโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ตามด้วยลงในฟุตบอลลีก และยิงประตูได้ต่อเนื่อง

กลางปี 2006 ในเกมที่นาซิอองนาลบุกไปเยือนดีเฟนซอร์ ซัวเรซลงเป็นตัวจริง และทำได้ 1 ประตู ช่วยให้ทีมชนะ ซึ่งบังเอิญที่แมตช์นั้นแมวมองของสโมสรโกรนิงเก้น เข้ามาชมเกมในสนามด้วย

จริงๆพวกเขามาดูคนอื่น แต่เจ้าหนุ่มซัวเรซคนนี้ดันเล่นดีมาก ทางโกรนิงเก้นจึงยื่นข้อเสนอให้ซัวเรซ ไปทดสอบฝีเท้าที่ฮอลแลนด์

ซัวเรซเดินทางไปถึงโกรนิงเก้น สตาฟฟ์โค้ชที่ฮอลแลนด์ก็ชื่นชอบเขามากและพร้อมเซ็นสัญญาทันที

ตอนนั้นซัวเรซ ก็คิดหนักว่าจะเอายังไงดี เพราะเขาพูดภาษาสเปนได้อย่างเดียว จะดัตช์หรืออังกฤษก็พูดไม่ได้ทั้งนั้น แล้วแบบนี้จะเล่นในลีกฮอลแลนด์ได้จริงหรอ

แต่ซัวเรซก็คิดว่า อย่างน้อยฮอลแลนด์มันก็ใกล้สเปนมากกว่าอุรุกวัยละกัน ถ้าหากเขาพลาดโอกาสเซ็นกับโกรนิงเก้นครั้งนี้ อาจต้องกลับไปเล่นที่อเมริกาใต้ แล้วก็อยู่ห่างไกลโซเฟียอีกรอบ คือไม่รู้เมื่อไหร่ทีมจากยุโรปจะสนใจอีก อาจไม่มีโอกาสเลยก็ได้

มองในแง่ดี โกรนิงเก้นกับบาร์เซโลน่า บินแค่ 3 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว วันหยุดก็เจอกันได้ ดังนั้นซัวเรซจึงตัดสินใจเซ็นสัญญากับโกรนิงเก้นในที่สุด

--------------------------------

ซัวเรซใช้ชีวิตที่ฮอลแลนด์อย่างลำบากมากๆ เพราะพูดอังกฤษไม่ได้เลย

เขาอยากซักผ้า ก็ไม่รู้ว่าต้องพูดว่าอะไร เลยต้องส่งข้อความหาโซเฟียให้ช่วยหน่อย โดยโซเฟียก็เขียนวิธีการอ่านออกเสียงมาให้เป็นประโยค

ซึ่งส่วนใหญ่ซัวเรซ พออ่าน Text ที่โซเฟียส่งมา คนก็ยังไม่รู้เรื่อง เขาต้องยื่นโทรศัพท์ให้โซเฟียคุยแทนอยู่ดี

ถึงจุดนี้ซัวเรซจึงรู้ว่า โซเฟียมีความหมายกับเขามากจริงๆ ทั้งในเรื่องของความรู้สึกและการใช้ชีวิต

ดังนั้นหลังจากทบทวนอย่างดีแล้ว เขาจึงไปหาโซเฟียที่บาร์เซโลน่า แล้วบอกให้เธอย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ฮอลแลนด์เลยเถอะ มาเริ่มต้นชีวิตใหม่กันสองคน เขาจะดูแลชีวิตเธอเอง

"เธอจะบ้าหรือไง! ฉันอายุยังไม่ 17 เลย แล้วพ่อแม่ของฉันล่ะ ท่านจะว่ายังไง" โซเฟียตกใจ

"มากับฉันเถอะ ตอนนี้เลย ฉันจะซื้อตั๋วให้เธอเอง" ซัวเรซรู้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ดูหุนหันพลันแล่น แต่เขาคิดมาดีแล้ว

ซัวเรซให้โซเฟียโทรหาคุณพ่อคุณแม่ทันที "พ่อคะ หนูจะไปโกรนิงเก้นกับหลุยส์นะคะ"

"ได้สิลูก แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะ?"

โซเฟียบอกพ่อไปว่าจะกลับไปอีก 1 อาทิตย์ แต่ทว่า เธอก็ไม่เคยได้กลับไปอยู่กับพ่อแม่อีกเลย เธออยู่ฮอลแลนด์ไปตลอด และสร้างครอบครัวกับหลุยส์ ซัวเรซนับจากวันนั้น

--------------------------------

การจะรู้ได้ว่าใครสักคนรักเราจริงหรือไม่ บททดสอบง่ายที่สุด คือเมื่อมีปัญหาเข้ามาให้ต้องเผชิญ

อีกฝ่ายพร้อมจะสู้ เพื่อประคองความรักของเราให้รอดหรือไม่

บนโลกนี้การที่คนสองคนจะรักกันได้นั้น ไม่เคยเป็นเรื่องง่าย ต้องมีอุปสรรคต่างๆมาเป็นบทพิสูจน์ใจเสมอ

แต่ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน จำเอาไว้

คนที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต จะไม่ปล่อยมือเรากลางทาง

ปล.บทความดีๆจากเพจ "วิเคราะห์บอลจริงจัง"
https://www.facebook.com/jingjungfootball/

[OverMan]

หูยย ชีวิตพี่เหยิน ยังกะนิยาย นำไปสร้างเป็นหนังรักโรแมนติกได้เลยนะนี้ 5555